เรือนมัลลิการ์ ร้านอาหารไทยที่สืบทอดรสมือต้นตำรับที่ให้รสเข้มข้นแบบไทยแท้ ภายใต้บรรยากาศเรือนไทยที่คงเสน่ห์แห่งวัฒนธรรมเอาไว้ โดยร้านอาหารเรือนมัลลิการ์ตั้งใจสืบสานวัฒนธรรมไทยตามวิถีกินอย่างไทย อยู่อย่างไทย บรรยากาศของร้านจึงโดดเด่นในรูปแบบเรือนไทยโบราณที่ประดับประดาด้วยเครื่องปั้นดินเผาไทยประติมากรรมไทย
ตลอดจนประตูหน้าต่างที่ออกแบบในรูปแบบสถาปัตยกรรมไทย โดยเรือนมัลลิการ์ที่เราชวนไปเยือนในวันนี้เป็นสาขาแรกในย่านสุขุมวิท 22 ซึ่งเป็นเรือนไม้สักไทยสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น อายุกว่า 200 ปี บรรยากาศภายในจึงมีพร้อมความครึมแบบไทยดั้งเดิม ขณะเดียวกัน พนักงานก็พร้อมใจแต่งองค์ทรงเครื่องด้วยการนุ่งผ้าถุงทอมือลายพื้นเมือง และห่มสไบ มาเสริมสร้างบรรยากาศ ไม่เพียงแต่บรรยากาศซึ่งถูกใจญาติผู้ใหญ่ที่ชื่นชอบสถาปัตยกรรมไทยเท่านั้น เมนูอาหารของที่นี่ก็เลิศรสไม่แพ้กัน ใครที่ชื่นชอบอาหารไทย รับรองว่าจะติดใจ การันรสชาติถูกปากด้วยรางวัล Top Restaurant in Thailand 2020 จากเว็บไซต์ AsiaTop80 ที่ได้รวมสุดยอดร้านอาาหรและโรงแรมในภูมิภาคเอเชียที่ได้มาตรฐานเอาไว้ นอกจากนี้เรือนมัลลิการ์ สาขาสุขุมวิท 22 แห่งนี้ยังเป็น “ร้านติดดาวมิชลิน” ประจำปี 2563 อีกด้วย เมนูแรกขอชวนไปอร่อยกับเมนูซิกเนเจอร์ “เมี่ยงกระทงทอง” (180 บาท) ของว่างแบบไทยๆ ที่อุดมด้วยสมุนไพรไทย กับกระทงจับจีบพอดีคำ โดยทอดให้เหลืองกรอบน่ารับประทาน พร้อมใส่เครื่องเคราจนพูน โดยเฉพาะมะพร้าวคั่วที่ให้กลิ่นหอมชวนลิ้มลอง ต่อกันด้วยเมนูเอาใจคนรักเมนูต้มกับ “ต้มข่าปลาสลิดใบมะขามอ่อน” (450 บาท) ต้มข่ารสเข้มข้นที่ใส่เครื่องแน่นทั้งสมุนไพรไทย ปลาสลิลทอดชิ้นโต รวมทั้งรสกลมกล่อมจากใบมะขามอ่อน ความอร่อยยังไม่จบ เพราะเรายังมี “ฉันชื่อบุษบา” (ชุดเล็ก 300 บาท ชุดใหญ่ 500 บาท) เมนูซิกเนเจอร์ที่ทางร้านหยิบความงามของดอกไม้ตามฤดูมานำเสนอในรูปแบบอาหาร ซึ่งเมนูนี้ใครจะเรียกว่าดอกไม้ทอดก็ไม่ผิด ความพิเศษของเมนูนี้นอกจากการได้คาดเดารสชาติของดอกไม้แต่ละชนิดแล้ว การทอดดอกไม้ของเรือนมัลลิการ์ยังให้ความสดใหม่ ไม่อมน้ำมัน และไม่มีกลิ่นน้ำมันมากวนใจ โดยทางร้านเสิร์ฟน้ำจิ้มหวานโรยงากับน้ำจิ้มไก่มาคู่กันให้เราเลือกจับคู่อร่อย